สาเหตุของการเกิดค้อนน้ำ
- การปิดวาล์วอย่างรวดเร็ว: เมื่อวาล์วถูกปิดอย่างกะทันหัน น้ำที่กำลังไหลอยู่ในท่อจะหยุดเคลื่อนที่อย่างฉับพลัน ทำให้เกิดคลื่นแรงดันสะท้อนกลับไปมาในท่อ
- การหยุดปั๊มน้ำอย่างกะทันหัน: เช่นเดียวกับการปิดวาล์ว การหยุดปั๊มน้ำอย่างรวดเร็วจะทำให้การไหลของน้ำหยุดลงอย่างฉับพลัน ทำให้เกิดแรงดันกระแทก
- การเปลี่ยนแปลงทิศทางการไหลอย่างรวดเร็ว: การเปลี่ยนแปลงทิศทางการไหลของน้ำอย่างรวดเร็ว เช่น การเลี้ยวโค้งของท่อ อาจทำให้เกิดแรงดันกระแทกได้
ผลกระทบมีอะไรบ้างนะ ?
- ความเสียหายต่อท่อและอุปกรณ์: แรงดันกระแทกที่เกิดขึ้นอาจทำให้ท่อแตก รอยต่อรั่ว หรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น วาล์วและปั๊มน้ำ เสียหายได้
- เสียงดังรบกวน: การเกิดวอเตอร์แฮมเมอร์มักมีเสียงดังคล้ายเสียงค้อนทุบ ซึ่งอาจสร้างความรำคาญและรบกวนได้
- อายุการใช้งานของระบบลดลง: การเกิดวอเตอร์แฮมเมอร์ซ้ำๆ จะทำให้ระบบท่อและอุปกรณ์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
การป้องกันการเกิดค้อนน้ำด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่ลดการเกิดได้ และสิ่งสำคัญ คือ การดูแลรักษาและการทำงานของระบบท่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสาเหตุที่เกิดขึ้นในระบบท่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการไหลหรือความเร็วของน้ำอย่างกะทันหัน ที่สามารถนำไปสู่การสร้างคลื่นแรงดันที่เคลื่อนที่ผ่านระบบท่อ ทำให้เกิดผลเสียหายได้ ดังนั้นเรามาดูวิธีป้องกันกัน
การลดความเสี่ยงการเกิดค้อนน้ำ ที่มีประสิทธิภาพมีดังนี้
1. การปิดวาล์วช้าๆ
การปิดวาล์วอย่างกะทันหันสามารถทำให้เกิดปัญหาในท่อน้ำได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของการไหลในท่อจะทำให้เกิดการสะสมพลังงานที่แปรเปลี่ยนเป็นแรงดันที่สูง
การใช้วาล์วที่ปิดช้า (Slow-Closing Valves) ช่วยให้การปิดวาล์วเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงการไหลและลดความเสี่ยงของการเกิด Water Hammer
การติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการไหล (Flow Control Devices) เช่น Variable Frequency Drives (VFDs) หรือ Flow Regulators ช่วยในการควบคุมความเร็วการไหลของน้ำและช่วยลดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของแรงดัน
2. อุปกรณ์ควบคุมไฟกระชาก (Surge Protection Devices)
อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยดูดซับแรงดันส่วนเกินจากการเกิด ค้อนน้ำ เช่น Pressure Relief Valves หรือ Surge Tanks ที่ติดตั้งในระบบเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายจากแรงดันสูง
การติดตั้งที่ตู้ควบคุมหรือหน้างานที่เป็นแนวตั้ง ช่วยลดความผันผวนของแรงดันและป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการเกิดไฟกระชากหรือแรงดันสูง
3. Air Chambers หรือ Air Valves
Air Chambers เป็นช่องอากาศที่ติดตั้งในระบบท่อเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการดูดซับแรงดันที่เกิดจากการกระแทกน้ำ โดยอากาศในท่อจะถูกบีบอัดในช่วงที่เกิดแรงดันสูงแล้วปล่อยกลับเมื่อแรงดันลดลง
4. เช็ควาล์ว (Check Valve)
เช็ควาล์ว ช่วยป้องกันการไหลย้อนกลับ (Backflow) ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังจากที่มีการหยุดหรือเริ่มการทำงานของปั๊ม
5. วาล์วระบายแรงดัน (Pressure Relief Valve)
วาล์วระบายแรงดัน ใช้ในการป้องกันไม่ให้แรงดันเกินขีดจำกัดที่ปลอดภัย โดยการตั้งค่าให้เปิดและระบายของไหลออกเมื่อแรงดันเกินค่าที่กำหนด
การใช้วาล์วระบายแรงดันช่วยป้องกันการสะสมของแรงดันที่สูงเกินไปในระบบท่อและลดความเสี่ยงจากการพังของปั๊มหรือการเกิดความเสียหายที่อุปกรณ์ต่างๆ
6. ขนาดและเส้นท่อที่เหมาะสม
การเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมและการออกแบบเส้นท่อให้สามารถรองรับการไหลของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของความเร็วการไหล
ท่อที่มี เส้นผ่านศูนย์กลางที่เหมาะสม ช่วยลดการเกิดความเร็วสูงที่อาจทำให้เกิดแรงดันที่รุนแรง การเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมทำให้สามารถควบคุมการไหลของน้ำได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงจากการเกิดค้อนน้ำ
ตรวจสอบและบำรุงรักษา
การป้องกันเหล่านี้สามารถลดความเสี่ยงของการเกิด Water Hammer ได้ โดยสิ่งสำคัญ คือ การตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบท่ออย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการตรวจสอบวาล์ว ตรวจสอบการรั่วไหล และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ควบคุมไฟกระชากทำงานอย่างถูกต้อง ช่วยรักษาอายุการใช้งานและประสิทธิภาพของระบบท่อ ในขณะที่หลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและการหยุดทำงาน
รับชม : ชุดบูสเตอร์ปั๊ม