แหล่งกำเนิดไฟฟ้าเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทำให้มนุษย์ได้เรียนรู้และเข้าใจหลักการของพลังงาน
เมื่อเห็นว่าธรรมชาติสามารถสร้างไฟฟ้าได้เอง เช่น ฟ้าผ่า ไฟฟ้าสถิต หรือพลังงานจากแสงอาทิตย์ มนุษย์จึงนำแนวคิดเหล่านี้มาศึกษาและลอกเลียนแบบ จนพัฒนาเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าประดิษฐ์และเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน
จากความเข้าใจเชิงธรรมชาติเหล่านี้ มนุษย์สามารถประดิษฐ์อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าหลากหลายชนิด เช่น แบตเตอรี่ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) โรงไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ไปจนถึงระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม พลังงานน้ำ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการประยุกต์หลักการเดียวกับที่พบในธรรมชาติ
กล่าวโดยสรุป ธรรมชาติไม่เพียงเป็นแหล่งต้นแบบของพลังงานไฟฟ้า แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์สร้างเทคโนโลยีและระบบพลังงานที่ช่วยขับเคลื่อนโลกอุตสาหกรรมและการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบัน
แหล่งกำเนิดไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.แหล่งกำเนิดไฟฟ้าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
เราสามารถพบเห็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าได้ เช่น ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ฟ้าร้องและปรากฏการณ์นอกจากนี้ในช่วงเข้าหนาวในวันที่อากาศแห้ง เมื่อเราหวีผมนานๆ จะสังเกตได้เห็นว่าเส้นผมของเราจะไม่เรียบ แต่เหมือนกับหวีมีแรงดึงดูดเส้นผมของเราเวลาหวีผมจะเสียงจากเส้นผมดังคล้ายเสียงไฟฟ้าช็อต และอีกตัวอย่างหนึ่งของแหล่งกำเนิดพลังงาน คือ ปลาไหลไฟฟ้า ชาวประมงจะคุ้นเคยดี เมื่อสัมผัสโดนตัวปลาไหลเราจะรู้สึกชาเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต เป็นอันตรายต่อผู้สัมผัสเป็นอย่างมาก ปรากฎการณ์ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ
2.แหล่งกำเนิดไฟฟ้าที่มนุษย์สร้างขึ้น
คือ แหล่งพลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาทางเคมี โดยการนำโลหะ 2 ชนิดที่แตกต่างกัน เช่น สังกะสีกับทองแดงจุ่มลงในสารละลาย โลหะทั้งสองจะทำปฏิกิริยาเคมีกับสารละลายทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องกลและปั๊ม เป็นฝีมือที่มนุษย์สร้างขึ้น
1. โรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ
ใช้แรงน้ำจากเขื่อนหรือแหล่งน้ำไหลผ่านกังหันเพื่อหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นพลังงานที่สะอาด ไม่มีการปล่อยคาร์บอน และมีความเสถียรสูง
2. โรงงานไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์
ใช้แผงโซลาร์เซลล์เปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า เหมาะกับพื้นที่มีแสงแดดตลอดปี เป็นพลังงานทดแทนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
3. โรงงานไฟฟ้าพลังลม
ใช้กังหันลมจับพลังงานจากกระแสลมแล้วแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า มีการใช้งานมากในพื้นที่ชายฝั่งและที่ราบสูง
4. โรงงานไฟฟ้าพลังชีวมวล
ผลิตไฟฟ้าจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น แกลบ ฟาง กากอ้อย หรือเศษไม้ ช่วยลดของเสียและหมุนเวียนพลังงานในท้องถิ่น
5. โรงงานไฟฟ้าพลังงานจากขยะ
นำขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ไปเผาผลาญเพื่อผลิตไอน้ำและเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า เป็นการจัดการขยะที่เกิดประโยชน์และช่วยลดปริมาณขยะในเมือง
6. โรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้ดิน
ใช้ความร้อนจากใต้ผิวโลก เช่น บ่อน้ำพุร้อน หรือหินร้อนลึกใต้ดินเพื่อนำมาผลิตไอน้ำหมุนกังหัน เป็นพลังงานสะอาดและมีความเสถียรสูง
และยังมีไฟฟ้าที่เกิดจากพลังงานแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้าที่ได้มาจากพลังงานแม่เหล็กโดยวิธีการใช้ลวดตัวนำไฟฟ้าตัดผ่านสนามแม่เหล็ก หรือการนำสนามแม่เหล็กวิ่งตัดผ่านลวดตัวนำอย่างใดอย่างหนึ่ง วิธีนี้จะทำให้เกิดแหล่งพลังงานไฟฟ้าไหลในลวดตัวนำนั้นกระแสที่ผลิตได้มีทั้งกระแสตรงและกระแสสลับ ทำให้เกิดไฟฟ้านั้นเอง
โดยระบบไฟฟ้ากระแสสลับสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระบบ ได้แก่ ระบบไฟ 1 เฟส และระบบไฟ 3 เฟส
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single phase) เป็นระบบไฟที่ใช้กันในบ้านเรือนทั่วไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ มีการจ่ายไฟที่เหมาะสมต่อหลอดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบไฟ 1 เฟสจะให้แรงดันไฟฟ้าที่ 220-230 V
ในส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ใช้ระบบไฟฟ้า1 เฟส ขอยกตัวอย่างเป็น MITSUBISHI รุ่น SP-QR Series เป็นแบบ Horizontal Type ที่มีขายึด ไฟ 1 Phase ชนิดธรรมดา แรงดันไฟ 220 V. ขนาดแรงม้าตั้งแต่ 1/4 HP – 1/2 HP มีความเร็วรอบ 1450 RPM ( 4P ) ความถี่ไฟฟ้า 50 Hz. มอเตอร์ประสิทธิภาพ
ระบบไฟ 3 เฟส (Three phase) เป็นระบบไฟที่ใช้กันในโรงงานอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ หรือที่พักอาศัยขนาดใหญ่เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ จะให้แรงดันไฟฟ้า 380 V
ในส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ระบบไฟฟ้า 3 เฟส ขอยกตัวอย่างเป็น MITSUBISHI รุ่น SF-QRV รุ่นใหม่สีดำ ปี 2021 แบบ Vertical Type หน้าแปลนยึด 3PHASE
ชนิดหุ้มมิด แรงดันไฟ 380V ขนาดตั้งแต่ 1/4HP – 10HP ความเร็วรอบ 1450RPM ( 4P ) , 2820RPM ( 2P ) และชนิดรอบช้า 950RPM ( 6P )
Totally Enclosed Fan Cooled Type, IP 55 Degrees of Protection ( Class F ) มอเตอร์เป็นแบบ IP55 (Ingress Protection) ใช้ได้ทั้งงานภายในและภายนอกอาคาร
สรุปแล้ว แหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้า ทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างมีความสำคัญในบริบทที่แตกต่างกัน แหล่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ มีความยั่งยืนและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า แต่ต้องพึ่งพาสภาพอากาศและสถานที่ ส่วนแหล่งที่มนุษย์สร้าง เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินและนิวเคลียร์ ให้พลังงานจำนวนมากและต่อเนื่อง แต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรมีจำกัด ดังนั้น การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่และความต้องการพลังงาน โดยในระยะยาวแหล่งพลังงานจากธรรมชาติมีความสำคัญต่อความยั่งยืนของโลกมากกว่า
นึกถึงสินค้าอุตสาหกรรม ต้องนึกถึงบริษัทย่งฮงเป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพและมีสินค้าหลากหลายให้ท่านได้เลือกตามต้องการ
สนใจสินค้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Tel 02-618-3000 , 02-036-3000
Hotline 088-008-2300
สามารถรับชมเพิ่มเติมได้: YONGHONG
ADD LINE
